กินมังสวิรัติหรือกินเจ: เส้นทางที่หลากหลายสู่เป้าหมายเดียวกัน
[This post has been translated from English to Thai. You can find the original post here. This translation was made possible with support from World Animal Protection courtesy of a grant from the Open Philanthropy Project.]
ความเป็นมาและความสำคัญ
มังสวิรัติเป็นส่วนสำคัญในการรณรงค์เรื่องสัตว์ปศุสัตว์ แม้ในช่วงเวลาที่เหล่านายทุนมุ่งเน้นไปที่การทำแคมเปญล็อบบี้ กลุ่มนักรณรงค์เกือบทุกกลุ่มก็ทุ่มเทเพื่อให้ผู้คน “ลองทานเจ” “เป็นวีแกน” หรือ “ทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์” แคมเปญเหล่านี้รวบรวมบทเรียนที่ได้จากการวิจัยและการประเมินผลกระทบ ซึ่งในขณะนี้มีงานวิจัยที่มีคุณภาพที่สำรวจ วิธีการเชิญชวนให้คนหันมาทานวีแกน และทานเจ (ในที่นี้โดยรวมจะเรียกว่า veg*ns ในรายงานนี้)
ในขณะเดียวกัน การวิจัยที่เกี่ยวกับวิธีการช่วยเหลือและการดูแล veg*ns คนใหม่ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารนอกบริบทของแคมเปญรณรงค์นี้มีจำกัดอย่างมาก การทำความเข้าใจและการสนับสนุน veg*ns มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเนื่องจากคนทั่วไปได้เริ่มทานอาหารที่ทำมาจากพืชและการรับประทานมังสวิรัติยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เราไม่ต้องการให้ผู้คนมีแนวคิดต่อการทานเจ และมังสวิรัติว่าเป็นการทานอาหารตามกระแสนิยมที่แค่ลองทำตามกระแส พอเบื่อก็เลิก Faunalytics (2014) ได้แสดงให้เห็นว่าคนที่เคยเป็น veg*ns ในสหรัฐอเมริกานั้นมีจำนวนมากกว่าคนที่ยังเป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยกลุ่มคนเหล่านี้หลายๆคนได้ลองทานมังสวิรัติเป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ
รายงานที่เกิดขึ้น
วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้คือการให้ข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับการเปลี่ยน veg*n ระยะสั้นกลายมาเป็น veg*n ระยะยาวหรือถาวรแก่นักรณรงค์ นี่เป็นรายงานฉบับแรกจากอีกหลายฉบับ ที่จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษาในครั้งนี้
- รายงานฉบับที่ 2 จะออกมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งจะกล่าวถึงแรงจูงใจทั้งโดยทั่วไป และเฉพาะเจาะจงของผู้คนในการเริ่มทานมังสวิรัติ ว่ามันมีผลต่อความสำเร็จอย่างไร และระดับของความเป็นสปีชีส์นิยมของพวกเขาในตอนต้นและตอนปลายของช่วงหกเดือน
- รายงานฉบับที่ 3 จะออกมาในปลายปีนี้ จะเน้นที่คำถามสำคัญเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกลยุทธ์ต่างๆ สำหรับการเอาชนะอุปสรรคในการเป็น veg*n
โครงการนี้มีข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งทั้งหมดจะถูกโพสต์ลงบน Open Science Framework เมื่อเราทำการวิเคราะห์และตีพิมพ์เสร็จแล้ว ในระหว่างนี้ หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับการวิจัยเพิ่มเติมที่ต้องการให้เราพิจารณา โปรดติดต่อที่อีเมล [email protected]
ผู้เข้าร่วม
การศึกษานี้ประกอบด้วยประชาชนทั่วไปจำนวน 222 คนจากทั้งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งเริ่มเปลี่ยนไปเป็นวีแกนหรือทานอาหารเจภายในสองเดือนที่ผ่านมาทั้งหมด
ในส่วนของระดับความมุ่งมั่นในรายงานนี้แสดงให้เห็นว่ามากกว่า 90% ของกลุ่มตัวอย่างได้กล่าวว่าพวกเขาอาจจะทานอาหารแบบใหม่หรือจะทานต่อไปอย่างถาวรแน่นอน ดังนั้นจึงอาจเป็นการดีที่สุดที่จะมองว่ากลุ่มคนตัวอย่างเหล่านี้ที่ได้ก้าวผ่านกรอบความคิดแบบธรรมดาๆไปแล้ว หรือพวกเขามีความต้องการที่จะเปลี่ยนตัวเองไปสู่ขั้นที่พวกเขาพร้อมที่จะมุ่งไปสู่เป้าหมายของการเป็น veg*n
ผลการศึกษาที่สำคัญ
- ผู้คนส่วนใหญ่ค่อยๆปรับเปลี่ยนไปทานมังสวิรัติหรือทานเจ มีเพียง 21% จากทั้งหมดที่เปลี่ยนเป็น veg*n ในชั่วข้ามคืน มี 38% จากทั้งหมดวางแผนที่จะเปลี่ยนในช่วงสองสามวันหรือหนึ่งสัปดาห์ อีก 34% ใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือสองสามเดือน และอีก 7% ที่เหลือใช้เวลาหลายเดือน หลังจากหกเดือน ผู้ที่เปลี่ยนแปลงช้ากว่ามักจะรู้สึกว่าประสบความสำเร็จน้อยกว่าและอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายการควบคุมอาหารมากกว่าผู้ที่เปลี่ยนเร็วกว่า แต่พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะทำต่อไปเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
- สำหรับผู้ที่ค่อยๆลดการรับประทานเนื้อสัตว์ลง เราไม่พบหลักฐานที่มีนัยสำคัญว่าวิธีการลดแบบใดแบบหนึ่งได้ผลดีกว่าวิธีอื่น ไม่ว่าผู้คนจะลดการบริโภคทั้งหมดลงทีละน้อย ลดการบริโภคอาหารบางอย่างในแต่ละครั้ง หรือทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน อัตราความสำเร็จก็ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
- เมื่อคุณจะเป็นวีแกนหรือทานเจ ความไม่สมบูรณ์เป็นกฎมากกว่าข้อยกเว้น โดยเฉลี่ยแล้ว เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการติดตาม 6 เดือน ผู้เข้าร่วมรู้สึกว่าประสบความสำเร็จ 88% แต่ยังคงบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์มากกว่าที่ตั้งใจไว้ 6.1 จานต่อเดือน มีผู้เข้าร่วมเพียง 28% รู้สึกว่าประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ แม้ว่า 57% จะบรรลุหรือทำได้เกินเป้าหมายของระดับการบริโภค
- คนทั่วไปลดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ลง 42.1 จานต่อเดือน ในช่วงหกเดือนแรกของการเป็น veg*n กล่าวคือ เมื่อสิ้นสุดการศึกษาบนกลุ่มตัวอย่าง พวกเขากินผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้อยลงถึง 42.1 จานต่อเดือน เมื่อเทียบกับก่อนที่พวกเขาจะเริ่มเปลี่ยนการทานอาหาร สำหรับผู้ทานเจรายใหม่ๆ นี่คือการเปลี่ยนจาก 15 จานต่อสัปดาห์เป็น 6 จานต่อสัปดาห์ สำหรับวีแกนรายใหม่ นี่คือการเปลี่ยนจาก 12 จานต่อสัปดาห์เหลือ 1 จานต่อสัปดาห์ครึ่ง มันไม่ได้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่พวกเขาก็ใกล้ที่จะเลิกการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ได้แล้ว
- การเลือกทานมังสวิรัติมากกว่าการทานเจนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดามากกว่าที่เคยเป็นมา ในกลุ่มตัวอย่างประชากรทั่วไปนี้ ผู้คน 41% มุ่งสู่การทานมังสวิรัติ และ 59% มุ่งสู่การทานเจ (มากกว่าเดิม 1.4 เท่า) เราเปรียบเทียบสิ่งนี้กับการศึกษาในปี 2014 ของเราซึ่งแสดงให้เห็นว่าในขณะนั้น มีคนทานเจมากกว่าวีแกนส์ถึง 3 เท่า (ในขณะเดียวกัน ความแตกต่างของระเบียบวิธีระหว่างการศึกษาทั้งสองอาจทำให้การเปลี่ยนแปลงที่เกินจริง ดังนั้นขอบเขตของการเปลี่ยนแปลงจึงควรถูกพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน)
- หลังจากหกเดือนผู้ที่มีคู่สมรสหรือบุตรมักจะอยู่ไกลจากเป้าหมายของการเป็น veg*n เมื่อเทียบกับคนที่ยังไม่แต่งงานและยังไม่มีบุตร การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นถึงความต้องการหลักที่สำคัญและบ่งชี้ว่ามันอาจส่งผลให้ทำตามเป้าหมายได้ยากขึ้น
คำแนะนำ
- ความมุ่งมั่นในช่วงต้นอย่างเฉพาะเจาะจง ระดับความมุ่งมั่นของผู้เข้าร่วมในช่วงเริ่มต้นของการศึกษา (เช่น แน่ใจมากขนาดไหนว่าพวกเขาสามารถรับประทานอาหารแบบเดิมต่อไปอย่างถาวร) เป็นตัวทำนายที่สำคัญของการรักษาและการละทิ้งการรับประทานอาหาร เราแนะนำให้มีการออกแบบคำมั่นสัญญาที่มีประสิทธิภาพ สำหรับแคมเปญเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของคุณ เพื่อสร้างความรับผิดชอบและความมุ่งมั่น
- เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละบุคคล ให้ใช้คำมั่นสัญญาที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ บุคคลแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกันมาก ดังที่เราเห็นในการวิเคราะห์นี้ มีเส้นทางที่ประสบความสำเร็จในการลดความทุกข์ทรมานของสัตว์ด้วยการเปลี่ยนการทานอาหารหลากหลายเส้นทาง แม้แต่กับผู้ที่มีเป้าหมายเดียวกัน ตัวอย่างเช่น กำจัดผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทั้งหมดในคราวเดียว กำจัดอาหารทีละอย่างจนกว่าจะถึงระดับเป้าหมาย หรือเพิ่มจำนวนอาหารสำหรับ veg*n ต่อสัปดาห์จนกว่าจะถึงระดับเป้าหมาย เราขอแนะนำให้คุณกำหนดความต้องการส่วนบุคคลก่อน จากนั้นปฏิบัติตามแนวทางคำมั่นสัญญาเพื่อให้พวกเขาปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ออกแบบไว้โดยเฉพาะสำหรับพวกเขาที่ไม่ใช่แบบทั่วๆไป
- รับทราบและตรวจสอบสภาพของแต่ละบุคคลที่ส่งผลให้เปลี่ยนแปลงได้ยากขึ้นและให้การสนับสนุนที่เหมาะสมหากทำได้ การศึกษานี้มีการระบุสถานภาพของครอบครัว (การมีคู่สมรส และ/หรือ บุตร) ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับคนจำนวนมาก เราแนะนำให้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปสรรคเหล่านี้จากผู้ที่มีประสบการณ์และโดยการอ่านเกี่ยวกับงานวิจัยอื่นๆ ในหัวข้อนี้ (เช่น Asher & Cherry, 2015; Greenebaum, 2018) การช่วยเหลือผู้คนให้พบวิธีที่จะเอาชนะอุปสรรคเป็นสิ่งสำคัญ แต่การทำความเข้าใจและตรวจสอบความปัญหาที่พวกเขามีอยู่ เพื่อให้ผู้คนรู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนในการเดินทางของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน (คำแนะนำนี้มาจากการวิจัยเรื่องการตอบสนองมีผลต่อการสนับสนุนเป้าหมายอย่างไร เช่น Canevello & Crocker, 2010; Feeney, 2004)
วิธีการศึกษา
โครงการนี้เน้นที่ประสบการณ์ของวีแกนส์และผู้ทานเจรายใหม่ (เรียกรวมกันว่า veg*n ในรายงานนี้เพื่อความเรียบง่าย) จากทั้งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ผู้เข้าร่วมต้องตอบแบบสำรวจเมื่อลงทะเบียนเข้าร่วม และแบบสำรวจติดตามผล 6 ชุดที่จะได้รับทุกเดือนในช่วงหกเดือนข้างหน้า
คนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่เห็นแคมเปญรณรงค์เดียวกันหรือสมัครเพื่อความท้าทาย ดังนั้นประสบการณ์และเหตุผลของพวกเขาจึงมีความหลากหลายและเป็นตัวแทนสำหรับเส้นทางที่หลากหลายเพื่อมุ่งสู่วิถีการเป็น veg*n ที่มีอยู่ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราพบว่าข้อมูลประชากรของผู้เข้าร่วมของเรานั้นค่อนข้างเป็นตัวแทนของประชากรโดยรวม แต่เรายังให้น้ำหนักผลลัพธ์เชิงบรรยายเพื่อให้ใกล้ชิดกับประชากรในสหรัฐอเมริกามากยิ่งขึ้น สำหรับรายละเอียด โปรดดู เอกสารประกอบเพิ่มเติม
เราขอชี้แนะว่าผู้เข้าร่วมเหล่านี้เป็นตัวแทนของผู้ที่เริ่มรับประทานแบบ veg*n ชนิดใหม่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยมีข้อยกเว้นประการหนึ่ง เช่นเดียวกับการศึกษาอื่นๆ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าบางคนมีแนวโน้มจะเข้าร่วมมากกว่าคนอื่นๆหรือไม่ ในกรณีนี้ เราสงสัยอย่างยิ่งว่าผู้ที่เพิ่งทดลองรับประทานอาหารแบบ veg*n และไม่ได้มีความมุ่งมั่นกับมัน อาจไม่ได้แสดงอยู่ในตัวอย่างนี้ เพราะมันคงเป็นสิ่งที่แปลกที่จะลงทะเบียนเพื่อเป็นกลุ่มตัวอย่างของการศึกษาที่ใช้เวลาหกเดือน ซึ่งศึกษาในสิ่งที่คุณอาจไม่อยากจะทำต่อหลังจากทำไปแล้วสองสามสัปดาห์ จากรายงาน ระดับความมุ่งมั่นของพวกเขาสนับสนุนสมมติฐานนี้ ตามที่อธิบายไว้ในผลการศึกษาที่สำคัญและในส่วนของระดับความมุ่งมั่นด้านล่าง
การใช้ตัวแทนและการชั่งน้ำหนัก
เพื่อให้แน่ใจว่าตัวอย่างนี้มีความเป็นตัวแทนของ veg*ns มากที่สุดที่จะเป็นไปได้ เราดำเนินการตามแผนก่อนการลงทะเบียนโดยการเปรียบเทียบพวกเขากับตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่มากกว่า ( n = 11,399) ของ veg*ns จากการศึกษาของ Faunalytics ในปี 2014 เรายินดีที่ได้พบว่ากลุ่มตัวอย่างปัจจุบันตรงกับกลุ่มประชากรส่วนใหญ่อยู่แล้ว แต่เพื่อเพิ่มความเป็นตัวแทนให้ได้มากที่สุด เราจึงชั่งน้ำหนักผลลัพธ์เชิงบรรยายให้ตรงกัน สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของขั้นตอนการเปรียบเทียบและการชั่งน้ำหนัก โปรดดูส่วนวิธีการโดยละเอียดในเอกสารประกอบเพิ่มเติม
การลดจำนวน
โดยรวมแล้ว ผู้เข้าร่วม 65% ได้เข้าร่วมจนจบการศึกษาทั้งหมด: ไม่ว่าจะโดยเป็นกลุ่มตัวอย่างจนจบช่วงระยะเวลาการศึกษา 6 เดือนโดยยังคงรับประทานอาหารตามเป้าหมาย หรือโดยการทำ “แบบสำรวจการออกจากการศึกษา” (แม้ว่าจะไม่ได้อธิบายลักษณะนั้นไว้สำหรับพวกเขาก็ตาม )
ตามที่เราคาดไว้ อัตราการสำเร็จของแบบสำรวจติดตามผลรายบุคคลลดลงอย่างต่อเนื่องอย่างช้าๆเมื่อเวลาผ่านไป โดยจากตอนแรกมี 77% ที่ทำแบบสำรวจการติดตามผลครั้งแรก ลดลงเหลือ 56% ที่ทำแบบสำรวจการติดตามผลครั้งที่หกและครั้งสุดท้าย แม้ว่าอัตราเหล่านี้จะเป็นอัตราที่ดีสำหรับการศึกษาระยะยาว แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญเสมอที่จะต้องพิจารณาว่าผู้ที่ออกจากการศึกษาของคุณแตกต่างจากผู้ที่อยู่ในการศึกษาหรือไม่ (เรียกว่าการลดจำนวนเชิงอนุพันธ์)
เราตรวจสอบการลดจำนวนอย่างรอบคอบโดยใช้แผนก่อนการลงทะเบียนและพบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างผู้ที่อยู่จนจบการศึกษานี้กับผู้ที่ไม่ได้อยู่จนจบ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการและผลลัพธ์ได้ในส่วนวิธีการโดยละเอียดในเอกสารประกอบเพิ่มเติม
ผู้ที่ละทิ้งเป้าหมายในการเป็น veg*n ของพวกเขา จะต้องทำ “แบบสำรวจการออกจากการสึกษา” จากช่วงเวลาของการศึกษาทั้งหมดมีผู้เข้าร่วมการศึกษาเพียง 19 คนจากทั้งหมด 222 คน (เป็น 9% ที่ไม่ได้นำไปชั่งน้ำหนัก) ระบุว่าพวกเขาได้ละทิ้งเป้าหมายการเป็น veg*n
บทสรุป
การศึกษานี้เป็นหนึ่งในความพยายามครั้งแรกในการติดตามการเปลี่ยนแปลงในการทานอาหารในระยะเริ่มต้นเป็นระยะเวลานานพอสมควร รายงานเบื้องต้นนี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลที่มุ่งมั่นที่จะเป็น veg*n และวิธีที่พวกเขาทำใน “โลกแห่งความเป็นจริง” นอกบริบทของแคมเปญรณรงค์
จากผลลัพธ์นั้นเห็นได้ชัดเจนว่าวิธีที่ผู้คนลดอันตรายต่อสัตว์นั้นมีความแตกต่าง ความไม่สมบูรณ์ และความหลากหลาย เราได้จัดเตรียมตัวอย่างของการเดินทางที่มีความเฉพาะตัวของแต่ละคนในรูปแบบของรูปภาพไว้ในส่วนผลลัพธ์ ดูที่“ตัวอย่างการเดินทาง”
เราขอแนะนำว่านักรณรงค์ควรเปิดใจและช่วยให้ผู้คนค้นพบแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพวกเขา สำหรับผู้ที่สนับสนุนการทานมังสวิรัติเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณจำเป็นต้องประนีประนอมหรือเปลี่ยนเป้าหมายสุดท้ายของคุณ แต่จำไว้ว่าเส้นทางที่หลากหลายสามารถนำไปสู่จุดสิ้นสุดเดียวกันได้
มีวีแกนส์ใหม่มากกว่าในอดีต?
ในการศึกษานี้ เราพบว่าผู้คน 41% มีเป้าหมายในการรับประทานอาหารมังสวิรัติ ในขณะที่ 59% มีเป้าหมายในการรับประทานอาหารเจ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือผู้คนปริมาณ 1.4 เท่าตั้งใจจะทานเจ แม้ว่าการรับประทานเจจะพบเห็นได้ทั่วไปมากกว่าจากการศึกษาของเราในปี 2014 แต่ความแตกต่างที่สังเกตพบในตอนนั้นกลับโดดเด่นกว่ามาก ในขณะนั้นมีผู้ทานเจมากกว่าวีแกนส์ถึง 3 เท่า และคนที่เคยทานเจมีมากกว่าวีแกนส์ถึง 9 เท่า นี่แสดงให้เห็นว่าการเลือกทานมังสวิรัติมากกว่าการกินเจนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดามากกว่าที่เคยเป็นมา ซึ่งเป็นการค้นพบที่สมเหตุสมผลในโลกที่ส่วนแบ่งตลาดของอาหารจากพืชเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเกิดความท้าทายในวงกว้าง เช่น เทศกาลการทานมังสวิรัติในเดือนมกราคมซึ่งได้รับความสนใจจากทั่วโลก
ในเวลาเดียวกัน เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่ามีความแตกต่างอย่างมากทางวิธีการที่ใช้ในการศึกษาระหว่างการศึกษาของเราในปัจจุบันกับในปี 2014 ซึ่งอาจส่งผลให้ขอบเขตของความแตกต่างนั้นมากเกินความเป็นจริงได้ ในขณะที่การศึกษาในปี 2014 ใช้การสำรวจเพียงครั้งเดียว ผู้เข้าร่วมในการศึกษาในปัจจุบันทราบดีว่าการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ที่จะใช้เวลานานถึงหกเดือน ผู้เข้าร่วมของเราอาจมีความมุ่งมั่นมากกว่าคนทั่วไป และหากวีแกนส์รายใหม่มีแนวโน้มที่จะมุ่งมั่นมากกว่าผู้ทานเจรายใหม่ พวกเขาอาจถูกแสดงในปริมาณที่มากเกินจริง
วีแกนหรือผู้ที่ทานอาหารจากพืช?
การศึกษานี้เน้นเรื่องอาหาร แต่เราก็ได้ตั้งคำถามถึงการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์อื่นๆด้วย เกือบครึ่งหนึ่ง (47.5%) ของผู้เข้าร่วมที่รับประทานอาหารมังสวิรัติมีเป้าหมายที่จะหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ไม่ใช่อาหารทั้งหมด สิ่งที่น่าสนใจคือ มากกว่าหนึ่งในสามของผู้มีเป้าหมายในการเป็นผู้ที่รับประทานเจ (37.3%) ก็ตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ไม่ใช่อาหารทั้งหมดอีกด้วย
โดยรวมแล้ว เราพบว่าผู้เข้าร่วมประมาณครึ่งหนึ่งที่เราเรียกว่า “วีแกน” ในรายงานนี้จะเรียกว่า “ผู้ทานอาหารจากพืช” โดยผู้ที่สร้างความแตกต่างในด้านแนวทางปฏิบัติ ดังที่ระบุไว้ในรายงานก่อนหน้านี้ เราเข้าใจถึงเหตุผลแต่เลือกที่จะไม่แยกความแตกต่างของทั้งสองในรายงานนี้ เนื่องจากเป้าหมายของเราคือการสนับสนุนผู้ที่เริ่มลดการทำร้ายสัตว์ผ่านการกระทำของพวกเขา นี่เป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการไม่แบ่งแยกและการสนับสนุนทางสังคมมีประโยชน์เชิงบวกในหลาย ๆ ด้านของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและความเป็นอยู่ที่ดี ในขณะที่สิ่งอื่นและการกีดกันมีผลในทางลบ (เช่น DiMatteo, 2004; Korpershoek et al., 2019; Lemstra et al., 2016).
การเปลี่ยนแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไปและไม่สมบูรณ์เป็นเรื่องปกติ
ในช่วงสุดท้ายของระยะเวลาการติดตาม 6 เดือนของเรา 57% ของผู้เข้าร่วมบรรลุหรือทำได้เกินเป้าหมาย แต่ผู้เข้าร่วมโดยเฉลี่ยยังคงบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ 6.1 จานต่อเดือนมากกว่าที่ตั้งใจไว้ (สำหรับวีแกนส์ จะเท่ากับ 6.1 จาน สำหรับผู้ที่ทานเจจะเป็น 6.1 จาน นอกเหนือจากนมและไข่ที่ตั้งใจจะกินอีกมาก)
ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ มีผู้เข้าร่วมเพียง 28% รู้สึกว่าประสบความสำเร็จ 100% ภายในเดือนที่ 6 และระดับความสำเร็จโดยเฉลี่ยในช่วงท้ายอยู่ที่ 88% นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจว่าความสำเร็จและความสำเร็จในการบริโภคมีความสัมพันธ์กันในระดับปานกลางเท่านั้น นั่นคือในขณะที่การบริโภคที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายของคุณมักจะไปพร้อมกับความรู้สึกที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น มันไม่ได้ไปควบคู่กันอย่างแน่นอน มีคนที่ทำได้ดีในการบริโภคแต่รู้สึกว่าประสบความสำเร็จน้อยลงด้วยเหตุผลหลายประการ และผู้ที่มียังตั้งปรับปรุงอีกเยอะแต่รู้สึกว่าตนเองทำได้ดี บางทีอาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงที่ช้ากว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผน
นอกจากนี้เรายังพบว่าคนส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนมาทานมังสวิรัติหรือทานเจในชั่วข้ามคืน ส่วนใหญ่ใช้เวลาอย่างน้อยสองสามวันหรือหลายสัปดาห์ (38%) หลายสัปดาห์หรือสองสามเดือน (34%) หรือแม้แต่หลายเดือน (7%) มีเพียง 21% ที่เป็น veg*n ในชั่วข้ามคืน แม้ว่าผู้ที่เปลี่ยนผ่านอย่างค่อยเป็นค่อยไปมีแนวโน้มที่จะรู้สึกประสบความสำเร็จน้อยลงและไกลจากเป้าหมายในการควบคุมอาหารมากขึ้นหลังจากผ่านไป 6 เดือน แต่ก็ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในความเป็นไปได้ที่จะเลิกกับการทำต่อไป
ภาระหน้าที่ภายในครอบครัวทำให้ยากขึ้น
เราพบว่าคนที่แต่งงานแล้วมักจะอยู่ไกลจากเป้าหมายการเป็น veg*n มากขึ้นหลังจากหกเดือน เมื่อเทียบกับคนที่ยังไม่แต่งงาน แม้แต่ผู้ที่มีคู่ครองระยะยาวก็มีความแตกต่างที่ยิ่งมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับผู้ที่มีและไม่มีบุตร เนื่องจากผู้ที่มีบุตรมักจะอยู่ไกลจากเป้าหมายอย่างมาก นี่แสดงให้เห็นว่าความต้องการที่จำเป็นนั้นทำให้ยากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบุคคลเหล่านี้จะอยู่ไกลจากเป้าหมายมากกว่า แต่ก็ไม่มีหลักฐานสำคัญว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะละทิ้งความพยายามในการเป็น veg*n หรือว่าพวกเขารู้สึกว่าประสบความสำเร็จน้อยกว่าคนอื่นๆ เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการตีความนิยามความสำเร็จ โดยคำนึงถึงความยากลำบากที่เกิดจากภาระหน้าที่ในครอบครัว เราขอแนะนำว่าผู้สนับสนุนควรเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูล (เช่น Asher & Cherry, 2015; Greenebaum, 2018) และรับทราบปัญหาเหล่านี้ โดยเน้นว่าแนวทางที่ยืดหยุ่นนั้นเป็นไปได้ในขณะที่ยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย
การวิจัยเพิ่มเติมในหัวข้อนี้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของสภาพการณ์ในครอบครัว การช่วยเหลือผู้คนให้พบวิธีที่จะเอาชนะอุปสรรคเป็นสิ่งสำคัญ แต่การทำความเข้าใจและรับรู้ถึงความยากลำบากที่พวกเขามีนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะมันทำให้ผู้คนรู้สึกได้รับการสนับสนุนในการเดินทางของพวกเขา (คำแนะนำนี้มาจากการวิจัยว่าการตอบสนองนั้นมีผลต่อการสนับสนุนเป้าหมายอย่างไร เช่น Canevello & Crocker, 2010; Feeney, 2004)
![](https://faunalytics.org/wp-content/uploads/2024/04/jo-bio-300x300.png)
Related Posts
- In The Spotlight
การเป็นวีแกน หรือ มังสวิรัติ: อุปสรรค และกลยุทธ์บน
เส้นทางสู่ความสำเร็จรายงานฉบับนี้ เป็นรายงานฉบับที่สาม และเป็นฉบับสุดท้ายในชุดเนื้อหาที่อธิบายเกี่ยวกับผลการศึกษาผู้ทานมังสวิรัติและวีแกนรายใหม่ของ Faunalytics - In The Spotlight
Menjadi Vegan Atau Vegetarian: Motivasi dan Pengaruh
Tujuan kajian ini adalah untuk menyediakan data yang kukuh untuk penyokong tentang cara membantu veg*n baharu mengekalkan perubahan gaya hidup mereka. Ini adalah laporan kedua dalam siri tiga bahagian yang akan dikeluarkan daripada kajian ini. - In The Spotlight
Pagiging Vegan o Vegetarian: Mga Motibasyon at Impluwensiya
Ang layunin ng pag-aaral na ito ay ang magbigay ng maaasahang impormasyon sa mga tagapagtaguyod kung paano matutulungan ang mga bagong veg*n na mapanatili ang kanilang bagong lifestyle. Ito ang pangalawang ulat sa serye na may tatlong bahagi na ilalabas sa pag-aaral na ito. - In The Spotlight
เริ่มทานมังสวิรัติหรือทานเจ: แรงจูงใจและอิทธิพล
วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้คือเพื่อให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้แก่ผู้ที่รณรงค์เกี่ยวกับวิธีการช่วย veg*nism คนใหม่ๆ ให้ยังยอมรับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพวกเขา นี่เป็นรายงานฉบับที่สองในชุดของรายงานสามส่วนที่ออกมาจากการวิจัยนี้ - In The Spotlight
Menjadi Vegan Atau Vegetarian: Banyak Jalan Menuju Satu Tujuan
Studi ini adalah salah satu upaya pertama untuk melacak perubahan diet dini dalam jangka waktu yang cukup lama. Laporan awal ini memberikan pandangan tentang orang-orang yang berkomitmen untuk menjadi vegan/vegetarian dan bagaimana mereka melakukannya di “dunia nyata”, di luar konteks kampanye advokasi. - In The Spotlight
Menjadi Vegan Atau Vegetarian: Pelbagai Laluan Ke Satu Matlamat
Kajian ini adalah salah satu percubaan pertama untuk mengesan perubahan diet awal dalam tempoh masa yang agak lama. Laporan awal ini memberikan pandangan tentang orang yang komited untuk menjadi veg*n dan cara mereka melakukannya dalam "dunia sebenar", di luar konteks kempen advokasi. - In The Spotlight
Pagiging Vegan o Vegetarian: Maraming Paraan Para Maabot ang Isang Tunguhin
Ang pag-aaral na ito ay isa sa mga unang pagtatangka na subaybayan ang maagang pagbabago sa diyeta sa isang mahaba-habang panahon. Ang unang ulat na ito ay nagbibigay ng kaunawaan sa mga taong commited sa pagiging veg*n at kung paano nila ito ginagawa sa "tunay na mundo," sa labas ng konteksto ng isang kampanyang adbokasiya. - In The Spotlight
Thực hành Ăn thuần chay hoặc Ăn chay: Nhiều con đường cho một mục tiêu
Mục đích của nghiên cứu này là cung cấp dữ liệu đáng tin cậy cho những người ủng hộ về cách biến những người ăn chay ngắn hạn đó thành những người ăn chay dài hạn. Đây là báo cáo đầu tiên trong số các báo cáo sẽ được đưa ra từ nghiên cứu này. - In The Spotlight
Going Vegan Or Vegetarian: Many Paths To One Goal
Data about assisting and retaining new veg*ns is very limited. Our latest Faunalytics study looks at how we can improve our understanding and support of new veg*ns. - In The Spotlight
ความเห็นส่วนใหญ่ของประชาชนเกี่ยวกับ ‘ตลาดสด’: มุมมองเอเชีย
ในขณะที่ผู้คนและผู้สนับสนุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับ “ตลาดสด” เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนา การศึกษาจากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) มองว่าผู้คนในประเทศแถบเอเชียรู้สึกอย่างไรกับปัญหานี้ - In The Spotlight
Study of Current and Former Vegetarians and Vegans
This Faunalytics original study examines key factors in people's decisions to either adopt or give up a vegetarian or vegan diet. - In The Spotlight
Infographic: Former and Current Vegetarians/Vegans
This Faunalytics original infographic describes the number of former and current vegetarians and vegans in the United States. It shows that 10% of U.S. adults ages 17 and over are former vegetarians/vegans, while 2% of the adult population are current vegetarians/vegans.
- In The Spotlight
การเป็นวีแกน หรือ มังสวิรัติ: อุปสรรค และกลยุทธ์บน
เส้นทางสู่ความสำเร็จรายงานฉบับนี้ เป็นรายงานฉบับที่สาม และเป็นฉบับสุดท้ายในชุดเนื้อหาที่อธิบายเกี่ยวกับผลการศึกษาผู้ทานมังสวิรัติและวีแกนรายใหม่ของ Faunalytics - In The Spotlight
Menjadi Vegan Atau Vegetarian: Motivasi dan Pengaruh
Tujuan kajian ini adalah untuk menyediakan data yang kukuh untuk penyokong tentang cara membantu veg*n baharu mengekalkan perubahan gaya hidup mereka. Ini adalah laporan kedua dalam siri tiga bahagian yang akan dikeluarkan daripada kajian ini. - In The Spotlight
Pagiging Vegan o Vegetarian: Mga Motibasyon at Impluwensiya
Ang layunin ng pag-aaral na ito ay ang magbigay ng maaasahang impormasyon sa mga tagapagtaguyod kung paano matutulungan ang mga bagong veg*n na mapanatili ang kanilang bagong lifestyle. Ito ang pangalawang ulat sa serye na may tatlong bahagi na ilalabas sa pag-aaral na ito. - In The Spotlight
เริ่มทานมังสวิรัติหรือทานเจ: แรงจูงใจและอิทธิพล
วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้คือเพื่อให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้แก่ผู้ที่รณรงค์เกี่ยวกับวิธีการช่วย veg*nism คนใหม่ๆ ให้ยังยอมรับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพวกเขา นี่เป็นรายงานฉบับที่สองในชุดของรายงานสามส่วนที่ออกมาจากการวิจัยนี้