ผู้บริโภคและสวัสดิภาพสัตว์ในประเทศไทย
[This post has been translated from English to Thai. You can find the original post here. This translation was made possible with support from World Animal Protection courtesy of a grant from the Open Philanthropy Project.]
ดูเหมือนว่าทุกที่ที่เราหันไปดูในทุกๆวันนี้ อาหาร“eco” กำลังเป็นที่นิยมอยู่ บ่อยครั้งที่อาหารดังกล่าวะมีความกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ นอกเหนือจากปัจจัยอื่นๆ เช่น การใช้สารกำจัดศัตรูพืช สารอินทรีย์ และประเด็นด้านความปลอดภัยของอาหาร ในเอเชียที่การบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก สวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์มกลายเป็นประเด็นที่น่าวิตกมากขึ้นไปอีก ตลาดสำหรับอาหาร “อย่างยั่งยืน” และอาหารออร์แกนิกก็มีการเติบโตเช่นกัน ในประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์รายงานว่าเกษตรอินทรีย์สร้างรายได้ 23 ล้านดอลลาร์จากยอดขาย เพิ่มขึ้น 145% จาก 9.4 ล้านดอลลาร์ในปี 2002 ซึ่งเป็นเรื่องน่าสังเกตในประเทศที่มีผู้ใช้ยาฆ่าแมลงมากเป็นอันดับ 4 ของโลก ในการศึกษานี้ นักวิจัยได้ตรวจสอบทัศนคติของผู้บริโภคชาวไทยเกี่ยวกับตลาดอาหาร “eco” และวิธีการส่งเสริมอาหารดังกล่าว
นักวิจัยที่นี่ใช้แบบสำรวจสองส่วนเพื่อรับข้อมูลจากผู้บริโภค ส่วนแรกเน้นที่ข้อมูลประชากรของผู้บริโภค ในขณะที่ส่วนที่สองพิจารณาทัศนคติของผู้บริโภคและความตั้งใจที่จะซื้ออาหารออร์แกนิก ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีการศึกษาดี (62% มีระดับมัธยมปลายหรือปริญญาตรี) มีอายุระหว่าง 31 ถึง 40 ปี และมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นโสด นักวิจัยพบว่า “แหล่งกำเนิดในท้องถิ่น” เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่มีผลต่อความตั้งใจของผู้บริโภคในการซื้ออาหารออร์แกนิกจากการจัดอันดับข้อกังวลที่ปรากฏในการสำรวจ สวัสดิภาพสัตว์มาเป็นอันดับสองและสิ่งแวดล้อมใกล้เคียงเป็นอันดับสาม สุขภาพและความปลอดภัยของอาหารเป็นปัจจัยที่มีอันดับต่ำที่สุด นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าการมุ่งสู่การผลิตแบบออร์แกนิกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประเทศที่ใช้สารเคมีในการเกษตรอย่างเข้มข้นเช่นเดียวกับประเทศไทย สำหรับผู้รณรงค์เรื่องสัตว์ การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าความกังวลเรื่องสวัสดิภาพสัตว์เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้ออาหารอินทรีย์ในประเทศไทยซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดี